สารบัญ
- ครึ่งศตวรรษแห่งความพยายาม: การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวัน
- การถ่ายทำยาวนาน 5 ปีของผู้กำกับเสียวจูเจิ้น
- การเชิญชวนจากผู้เชี่ยวชาญและแรงบันดาลใจเริ่มต้น
- ความร่วมมือระหว่างบุกเบิกอุตสาหกรรมและผู้ผลิตภาพยนตร์
- ขุดค้นข้อมูลประวัติศาสตร์และเอกสารล้ำค่า
- สัมภาษณ์หลากหลาย มุมมองหลากด้านของอุตสาหกรรม
- การฟื้นฟูสถานที่สำคัญและติดตามเหตุการณ์ปัจจุบัน
- ความท้าทายด้านทรัพยากรและการแลกเปลี่ยนในสังคม
- กลับสู่หัวใจสำคัญ: ชะตากรรมร่วมของ “ไต้หวัน”
- อิสรภาพทางการสร้างสรรค์และทุนสนับสนุนหลากหลาย
- จากบุคคลสู่ธุรกิจ และสุดท้ายคือเรื่องราวของไต้หวัน
- Q&A
ครึ่งศตวรรษแห่งความพยายาม: การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวัน
ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวันผ่านความยากลำบากมากมาย จนสามารถค้นพบเส้นทางการพัฒนาเป็นของตัวเองและกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลก ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “ผู้สร้างภูเขา – เดิมพันแห่งศตวรรษ” KUBETนำเสนอผ่านมุมมองด้านมนุษยศาสตร์และประวัติศาสตร์ เผยให้เห็นความท้าทายและความพยายามที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
ช่วงเวลา | 50 ปีที่ผ่านมา |
อุตสาหกรรม | เซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน |
เส้นทางพัฒนา | ผ่านความยากลำบากจนค้นพบแนวทางของตัวเอง |
ผลลัพธ์ | กลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลก |
ชื่อสารคดี | “ผู้สร้างภูเขา – เดิมพันแห่งศตวรรษ” |
แนวทางการนำเสนอ | มุมมองด้านมนุษยศาสตร์และประวัติศาสตร์ |
จุดเด่นของสารคดี | เผยให้เห็นความท้าทายและความพยายามที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน |
การถ่ายทำยาวนาน 5 ปีของผู้กำกับเสียวจูเจิ้น
เสียวจูเจิ้นและทีมงานเดินทางสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 80 คน ผ่านเหตุการณ์การค้าสงครามระหว่างจีน-สหรัฐฯ การระบาดของโรค และการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม KUBETปรับมุมมองการบันทึกภาพอย่างต่อเนื่อง จากเรื่องราวส่วนบุคคลไปจนถึงภาพรวมของอุตสาหกรรม และในที่สุดก็มุ่งสู่ชะตากรรมร่วมของสังคมไต้หวันทั้งเกาะ KUBET

การเชิญชวนจากผู้เชี่ยวชาญและแรงบันดาลใจเริ่มต้น
ในปี 2017 นักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญข้ามสาขาอย่างอู๋ฉวนหยวน เชื้อเชิญให้เสียวจูเจิ้นถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน แต่เธอยังมีงานถ่ายทำอื่นและไม่มั่นใจในตัวเองว่ามีความรู้ด้านเทคโนโลยีเพียงพอ จึงยังไม่รับงานนี้ หลังจากอู๋ฉวนหยวนเสียชีวิต และได้เห็นความผูกพันของผู้บุกเบิกอย่างหูติงหัวในงานรำลึกความทรงจำ KUBET เสียวจูเจิ้นจึงตัดสินใจรับผิดชอบโครงการนี้
ความร่วมมือระหว่างบุกเบิกอุตสาหกรรมและผู้ผลิตภาพยนตร์
หลังจากพูดคุยกับเฉินเทียนซุ่น ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตสื่อหงเหมย KUBETทั้งสองเห็นพ้องกันว่าต้องรีบเก็บรักษาความทรงจำของคนกลุ่มนี้ไว้ให้ได้ เฉินเทียนซุ่นจึงสนับสนุนงบประมาณเบื้องต้น หลังจากนั้นเสียวจูเจิ้นได้พบกับเจียงเซียนปิน ประธานบริษัท CNEX ขณะเป็นกรรมการตัดสินงานรางวัล Golden Horse ทั้งสองร่วมมือกันเสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยีและการผลิตภาพยนตร์ KUBET
ขุดค้นข้อมูลประวัติศาสตร์และเอกสารล้ำค่า
ทีมงานรวบรวมเอกสารจำนวนมาก KUBET รวมถึงบันทึกประจำวันของพันเหวิน ผู้บุกเบิกเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวันที่อู๋ฉวนหยวนเก็บรักษาไว้ รวมทั้งบันทึกการประชุมและสัญญาต่าง ๆ จากสถาบันวิจัยและสมาคมวิศวกรจีน เพื่อฟื้นฟูช่วงเวลาสำคัญและความเสี่ยงในกระบวนการตัดสินใจ
“การเดิมพัน” กลายเป็นคำสำคัญในการค้นหาเบาะแส ตั้งแต่คำถามของลี กวางเหยา นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ว่า “ไต้หวันกล้าทำอุตสาหกรรมชิปได้อย่างไร” KUBET และคำตอบของทางการไต้หวันที่ว่า “เรากำลังเดิมพันกับรัฐบาล” แสดงให้เห็นถึงความกดดันอย่างหนักในเวลานั้น
สัมภาษณ์หลากหลาย มุมมองหลากด้านของอุตสาหกรรม
ผู้ถูกสัมภาษณ์ครอบคลุมตั้งแต่ทีมต้นกล้าที่เดินทางไปเรียนรู้เทคโนโลยีที่สหรัฐฯ เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการ ผู้ประกอบการ ไปจนถึงช่างเทคนิคชั้นล่าง KUBET โดยแต่ละบทสัมภาษณ์กินเวลามากกว่าสองชั่วโมง ถ่ายทอดภาพรวมของอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง
การฟื้นฟูสถานที่สำคัญและติดตามเหตุการณ์ปัจจุบัน
ทีมงานใช้เวลากว่าครึ่งปีตามหาที่ตั้งร้าน “เสี่ยวซินซิน โดวจางเตี้ยน” ที่เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานเซมิคอนดักเตอร์ และเช่าห้อง 508 โรงแรมหยวนซานเพื่อถ่ายทำฉากที่พันเหวินปลีกวิเวกเขียนแผนพัฒนา
นอกจากย้อนอดีตแล้ว ทีมยังติดตามเหตุการณ์ปัจจุบัน เช่น การแข่งขันระหว่าง TSMC กับ Samsung และ Intel รวมถึงกระแส AI ในปี 2024 และการลงทุนของ TSMC ในสหรัฐฯ รวมทั้งมาตรการภาษีของทรัมป์ที่กระทบอุตสาหกรรม
ความท้าทายด้านทรัพยากรและการแลกเปลี่ยนในสังคม
สารคดียังเปิดเผยปัญหาการขยายโรงงานในอุทยานวิทยาศาสตร์ที่ทำให้ทรัพยากรน้ำและไฟฟ้าตึงตัว รวมถึงการอพยพชาวบ้านหมู่บ้านต้าซีในเขตเป่าซาน
ผู้กำกับย้ำว่าไม่ควรมองแค่ความรุ่งโรจน์ของอุตสาหกรรม เพราะไต้หวันมีทรัพยากรจำกัด ต้องยอมรับการแลกเปลี่ยนและการตัดสินใจที่เจ็บปวด
เช่น ทีมเคยถ่ายทำสถานการณ์วิกฤตน้ำ แต่เมื่อฝนตกหนัก ปัญหาก็ทุเลา แสดงถึงความไม่แน่นอนของสิ่งแวดล้อม
กลับสู่หัวใจสำคัญ: ชะตากรรมร่วมของ “ไต้หวัน”
หลังจากเผชิญเหตุการณ์หลายครั้ง เสียวจูเจิ้นพบว่าต้องกลับไปยังแก่นของเรื่อง คือ “ไต้หวัน” เข้าใจข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์และสถานการณ์ระหว่างประเทศ
ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 ที่ไต้หวันถูกขับออกจากสหประชาชาติและตัดสัมพันธ์กับสหรัฐฯ จนเกิดแรงรวมพลังรับผิดชอบร่วมกัน KUBET ทำให้เกิดอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และสร้าง “โล่ซิลิคอน” ป้องกันประเทศในปัจจุบัน
อิสรภาพทางการสร้างสรรค์และทุนสนับสนุนหลากหลาย
ภาพยนตร์ใช้ทุนผลิตสูงกว่าหลายสิบล้านบาท รวมถึงค่าลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ฮอลลีวูด “Fatal Attraction” เพื่อรักษาความเป็นอิสระในการสร้างสรรค์ ทีมงานจึงเลือกระดมทุนจากหลายแหล่งแทนการพึ่งพาเงินทุนจากบริษัทเดียว
เฉินเทียนซุ่นกล่าวว่า “เงินหนึ่งพันล้านจากคนเดียว ไม่เท่ากับเงินร้อยล้านจากสิบคน เพราะผลกระทบและเสียงตอบรับจะกว้างกว่า”
จากบุคคลสู่ธุรกิจ และสุดท้ายคือเรื่องราวของไต้หวัน
เสียวจูเจิ้นปรับเปลี่ยนมุมมองระหว่างการผลิต “เริ่มจากการเล่าเรื่องของคนกลุ่มหนึ่ง ต่อด้วยภาพรวมอุตสาหกรรมและประวัติศาสตร์ และสุดท้ายคือเรื่องราวของไต้หวันทั้งหมด”
เธอซาบซึ้งว่า ความสำเร็จของเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวันวันนี้คือผลลัพธ์ของนโยบาย การเสียสละ และการลงทุนจากประชาชน
ชื่อเรื่อง “ผู้สร้างภูเขา” คือสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณและความเชื่อมั่น แสดงถึงทัศนคติการมีชีวิตและการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้ของคนบนเกาะนี้
เธอกล่าวว่า “ฉันเชื่อว่าทุกคนคือผู้สร้างภูเขา”
Q&A
1. สารคดี “ผู้สร้างภูเขา – เดิมพันแห่งศตวรรษ” ถ่ายทำยาวนานกี่ปี และมีการสัมภาษณ์บุคคลกี่คน?
ตอบ: ถ่ายทำยาวนาน 5 ปี และสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องมากกว่า 80 คน
2. ใครเป็นผู้เชิญชวนให้เสียวจูเจิ้นทำสารคดีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน และอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เธอตัดสินใจรับงานนี้?
ตอบ: นักวิชาการอู๋ฉวนหยวนเป็นผู้เชิญชวน และหลังจากที่อู๋ฉวนหยวนเสียชีวิต เสียวจูเจิ้นได้รับแรงบันดาลใจจากความผูกพันของผู้บุกเบิกอย่างหูติงหัว จึงตัดสินใจรับผิดชอบโครงการนี้
3. ทีมงานสารคดีได้ขุดค้นเอกสารและบันทึกใดบ้างเพื่อฟื้นฟูประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวัน?
ตอบ: รวบรวมบันทึกประจำวันของพันเหวิน เอกสารการประชุมและสัญญาจากสถาบันวิจัยและสมาคมวิศวกรจีน รวมถึงเอกสารล้ำค่าต่าง ๆ ที่ช่วยบอกเล่าความเสี่ยงและกระบวนการตัดสินใจในอดีต
4. สารคดีสะท้อนถึงปัญหาอะไรที่เกิดจากการขยายโรงงานในอุทยานวิทยาศาสตร์ และทีมงานถ่ายทำสถานการณ์วิกฤตอะไรที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม?
ตอบ: สะท้อนปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำและไฟฟ้า รวมถึงการอพยพชาวบ้านหมู่บ้านต้าซี และถ่ายทำสถานการณ์วิกฤตน้ำที่เคยรุนแรงจนกระทั่งฝนตกหนักช่วยบรรเทาปัญหา
5. ความหมายของชื่อสารคดี “ผู้สร้างภูเขา” และบทเรียนที่เสียวจูเจิ้นได้เรียนรู้จากการสร้างสารคดีนี้คืออะไร?
ตอบ: ชื่อสารคดีเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณ ความพยายาม และความเชื่อมั่นของชาวไต้หวัน ที่ร่วมแรงร่วมใจสร้างอนาคตและปกป้องบ้านเกิด และเสียวจูเจิ้นเรียนรู้ว่า ความสำเร็จนี้เกิดจากนโยบายที่ชัดเจน การเสียสละ และความร่วมมือของประชาชนทั้งหมดบนเกาะ
เนื้อหาที่น่าสนใจ: