เปิดความลับ “ภูเขาเทพแห่งชาติ” ตอนที่ 5 / ทุ่มทุนซื้อสิทธิ์หนังฮอลลีวูด เสี่ยวจูเจิ้นแบกรับแรงกดดันทางการเมือง ไม่ปกปิดความจริง


สารบัญ

  1. เบื้องหลังการสร้างสารคดีทุนสูง
  2. รักษาอิสรภาพในการสร้างสรรค์ด้วยแหล่งทุนหลากหลาย
  3. เผชิญหน้ากับคำวิจารณ์และแรงกดดันทางการเมือง
  4. ยืนยันไม่ปกปิดประวัติศาสตร์และบทบาทของบุคคลสำคัญ
  5. วิวัฒนาการของเรื่องเล่า: จากบุคคลสู่ภาพรวมของชาติ
  6. “ผู้สร้างภูเขา” – สัญลักษณ์ของจิตวิญญาณและความมุ่งมั่น
  7. Q&A

เบื้องหลังการสร้างสารคดีทุนสูง

สารคดี “ผู้สร้างภูเขา – เดิมพันแห่งศตวรรษ” ที่กำกับโดยเสี่ยวจูเจิ้น เล่าเรื่องราวการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน ควบคู่กับภาพรวมสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยใช้ทุนสร้างสูงถึงหลายสิบล้านบาท

ในจำนวนนี้ มีค่าใช้จ่ายสำคัญคือการขออนุญาตใช้คลิปจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Fatal Attraction (1987) ซึ่งมีฉากโด่งดังที่ตัวละครชายประสบปัญหากับร่มที่เปิดไม่ออก และตัวละครหญิงถามว่า “Made in Taiwan?” KUBETซึ่งสะท้อนความสงสัยต่อสินค้าจากไต้หวันในยุคนั้น แต่ปัจจุบันภาพลักษณ์ของสินค้าจากไต้หวันได้เปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง

หัวข้อรายละเอียด
ชื่อสารคดี“ผู้สร้างภูเขา – เดิมพันแห่งศตวรรษ”
ผู้กำกับเสี่ยวจูเจิ้น
เนื้อหา– การพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน
– สถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
งบประมาณหลายสิบล้านบาท
ค่าใช้จ่ายสำคัญค่าขออนุญาตใช้คลิปจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Fatal Attraction (1987)
รายละเอียดของคลิปฉากที่ตัวละครชายประสบปัญหากับร่มที่เปิดไม่ออก และตัวละครหญิงถามว่า “Made in Taiwan?”
ความหมายของฉากสะท้อนความสงสัยต่อคุณภาพสินค้าจากไต้หวันในยุคนั้น
การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันภาพลักษณ์ของสินค้าจากไต้หวันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างสิ้นเชิง

รักษาอิสรภาพในการสร้างสรรค์ด้วยแหล่งทุนหลากหลาย

เพื่อไม่ให้ผลงานถูกครอบงำโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง KUBET เสี่ยวจูเจิ้นและผู้ผลิตภาพยนตร์อย่างเฉินเทียนชุน และเจียงเสียนผิน ได้ตกลงใช้แหล่งทุนจากหลายฝ่ายบริจาคและสนับสนุนแทนการพึ่งพาลงทุนจากบริษัทใหญ่เพียงรายเดียว KUBET

เฉินเทียนชุนกล่าวว่า “เงิน 1,000 ล้านบาทจากคนคนเดียว อาจไม่เท่ากับเงิน 100 ล้านบาทจาก 10 คน เพราะกลุ่มหลังจะสร้างพลังและเสียงสะท้อนที่กว้างขวางกว่า”

เผชิญหน้ากับคำวิจารณ์และแรงกดดันทางการเมือง

เสี่ยวจูเจิ้นเปิดใจว่ามีคนตั้งท่าลบก่อนจะได้ชมผลงาน KUBETบางคนตั้งคำถามว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเลือก “ฝ่าย” ไหนระหว่างแรงงาน (ไข่) กับกำแพง (องค์กรใหญ่) บางคนถามเล่น ๆ ว่า “พวกเขาจ่ายเงินให้เธอเท่าไหร่?”

เธอตอบว่า “ถ้าจะพูดถึงไข่กับกำแพง ในบริบทระดับโลกแล้ว ไต้หวันก็เหมือนไข่ใบหนึ่งที่เปราะบาง” KUBET ซึ่งเป็นการสะท้อนความเสี่ยงและความเปราะบางของประเทศในสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศ

ยืนยันไม่ปกปิดประวัติศาสตร์และบทบาทของบุคคลสำคัญ

เสี่ยวจูเจิ้นไม่หลบเลี่ยงแรงกดดันด้านการเมืองจากหลายฝ่าย “เมื่อเห็นว่ามีการแสดงภาพบุคคลทางการเมืองในภาพยนตร์ บางคนจะติดป้ายกำกับทันที KUBET แต่ฉันเลือกที่จะยึดมั่นในประวัติศาสตร์ และรับผิดชอบต่อมุมมองของตัวเอง”

เธอเน้นว่า ผู้ที่มีส่วนร่วมและสร้างผลงานสำคัญในอดีตต้องได้รับการนำเสนออย่างเต็มที่ KUBET ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม และไม่ควรถูกลบหรือปิดบังด้วยเหตุผลทางการเมือง

วิวัฒนาการของเรื่องเล่า: จากบุคคลสู่ภาพรวมของชาติ

ระหว่างการสร้างสารคดี เสี่ยวจูเจิ้นเรียนรู้และปรับเปลี่ยนมุมมองไปตามระยะเวลาที่ถ่ายทำ จากเดิมที่เน้นเล่าเรื่องบุคคลในวงการ KUBET ไปจนถึงมองภาพรวมของอุตสาหกรรมและประวัติศาสตร์ และสุดท้ายขยายไปถึงภาพใหญ่ของ “ไต้หวัน” ในฐานะประเทศหนึ่ง

เธอสะท้อนว่า การสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยนโยบายที่ชัดเจน การเสียสละของประชาชน และการจัดสรรทรัพยากรอย่างเต็มที่ KUBET จึงทำให้ไต้หวันกลายเป็นหนึ่งในผู้นำของโลกในวันนี้

“ผู้สร้างภูเขา” – สัญลักษณ์ของจิตวิญญาณและความมุ่งมั่น

ชื่อสารคดี “ผู้สร้างภูเขา” มีความหมายลึกซึ้ง เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณแห่งความพยายาม ความเชื่อมั่น และความตั้งใจที่จะทำให้โลกได้เห็นถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของชาวไต้หวัน

เสี่ยวจูเจิ้นกล่าวว่า “ทุกคนในไต้หวันคือผู้สร้างภูเขา KUBET เพราะเราต่างร่วมแรงร่วมใจกันสร้างอนาคตและปกป้องบ้านเกิดของเรา”

Q&A

1. สารคดี “ผู้สร้างภูเขา – เดิมพันแห่งศตวรรษ” ใช้ทุนส่วนใหญ่ไปกับอะไรที่สำคัญ?
ตอบ: ใช้ทุนส่วนใหญ่ไปกับการขออนุญาตใช้คลิปจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Fatal Attraction (1987) ซึ่งมีฉากที่สะท้อนความสงสัยต่อสินค้าจากไต้หวันในยุคนั้น


2. ทำไมผู้กำกับเสี่ยวจูเจิ้นและทีมงานจึงเลือกใช้แหล่งทุนจากหลายฝ่ายแทนการพึ่งพาลงทุนจากบริษัทใหญ่รายเดียว?
ตอบ: เพื่อรักษาอิสรภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ให้ถูกครอบงำโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และสร้างพลังและเสียงสะท้อนที่กว้างขวางจากกลุ่มผู้สนับสนุนหลายคน


3. เสี่ยวจูเจิ้นตอบอย่างไรเมื่อถูกตั้งคำถามว่าเรื่องนี้จะเลือก “ฝ่าย” ใดฝ่ายหนึ่งในเรื่องการเมือง?
ตอบ: เธอเปรียบว่าไต้หวันเหมือนไข่ใบหนึ่งที่เปราะบางในบริบทระดับโลก และเน้นว่าภาพยนตร์สะท้อนความเสี่ยงและความเปราะบางของประเทศ ไม่ได้เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง


4. ผู้กำกับสารคดีมีท่าทีอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงภาพบุคคลทางการเมืองในภาพยนตร์?
ตอบ: เธอยึดมั่นในประวัติศาสตร์และรับผิดชอบต่อมุมมองของตัวเอง ไม่หลบเลี่ยงแรงกดดัน และเชื่อว่าผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายต้องได้รับการนำเสนออย่างเต็มที่ ไม่ควรถูกลบหรือปิดบังด้วยเหตุผลทางการเมือง


5. ความหมายของชื่อสารคดี “ผู้สร้างภูเขา” คืออะไร?
ตอบ: เป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณ ความพยายาม ความเชื่อมั่น และความตั้งใจของชาวไต้หวันที่ร่วมแรงร่วมใจสร้างอนาคตและปกป้องบ้านเกิดของตนเอง



เนื้อหาที่น่าสนใจ: