สารบัญ
- บทนำ
- ผู้ป่วยในประเทศเดือนมิถุนายน
- สถานการณ์ ฝีดาษลิง ทั่วโลก
- อาการของโรค ฝีดาษลิง
- มาตรการป้องกันและคำแนะนำการฉีดวัคซีน
- การป้องกันตัวเอง
- การฉีดวัคซีน
- การท่องเที่ยวและการเข้าร่วมกิจกรรมสังคม
- สรุป
- Q&A
บทนำ
ช่วงฤดูร้อนหลายคนวางแผนไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ นอกจาก COVID-19 แล้ว โรค ฝีดาษลิง (Mpox) ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค KUBET พบว่าล่าสุดจำนวนผู้ป่วย ฝีดาษลิงในประเทศและประเทศใกล้เคียงยังคงเพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงการแพร่เชื้อในชุมชนภายในประเทศ ประชาชนจึงควรปฏิบัติตนเพื่อป้องกัน
| รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
| ประเด็น | โรคฝีดาษลิง (Mpox) |
| ช่วงเวลา | ฤดูร้อน |
| สถานการณ์ | จำนวนผู้ป่วยในประเทศและประเทศใกล้เคียงเพิ่มขึ้น |
| ความเสี่ยง | การแพร่เชื้อในชุมชนภายในประเทศ |
| แหล่งข้อมูล | กรมควบคุมโรค |
| คำแนะนำ | ประชาชนควรปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ |
ผู้ป่วยในประเทศเดือนมิถุนายน
กรมควบคุมโรคประกาศเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนว่า เดือนมิถุนายนมีผู้ป่วย ฝีดาษลิงในประเทศเพิ่ม 6 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ชายสัญชาติไต้หวัน KUBET โดยแบ่งเป็นภาคเหนือ 4 ราย และภาคกลาง 2 ราย อายุระหว่าง 20–30 ปี ผู้ป่วยมีวันเริ่มป่วยตั้งแต่ 1–17 มิถุนายน โดยมีอาการผื่น น้ำตุ่ม และหนอง หลังเข้ารับการตรวจจากแพทย์และตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันผล ข้อมูลถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2024 พบว่าผู้ป่วย KUBET ฝีดาษลิงสะสมในไต้หวัน 375 ราย แบ่งเป็นในประเทศ 353 ราย และนำเข้าจากต่างประเทศ 22 ราย สำหรับปีนี้มีผู้ป่วยใหม่ 16 ราย (ในประเทศ 13 ราย นำเข้า 3 ราย) เปรียบเทียบกับเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่มีผู้ป่วยเพิ่มเพียง 2 รายต่อเดือน เดือนมิถุนายนมีผู้ป่วยเพิ่ม 6 ราย แสดงให้เห็นแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้น KUBET โดยพบผู้ป่วยในทุกภูมิภาคทั้งเหนือ กลาง ใต้ และตะวันออก แสดงว่าความเสี่ยงการแพร่เชื้อในชุมชนยังมีอยู่
สถานการณ์ ฝีดาษลิง ทั่วโลก
ผู้ป่วยใหม่เฉลี่ยทั่วโลกเดือนละเกือบ 800 ราย โดยสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนสูงสุดประมาณ 47.5% ส่วนยุโรป แอฟริกา KUBET และเขตแปซิฟิกตะวันตก 17.7–13.9% และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 3.6% ประเทศใกล้ไต้หวัน เช่น จีน ฮ่องกง เวียดนาม ไทย และออสเตรเลียยังคงมีผู้ป่วยเพิ่ม โดยเฉพาะออสเตรเลียช่วงพฤษภาคม–มิถุนายนมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มอย่างรวดเร็ว เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินโดนีเซียมีผู้ป่วยเป็นครั้งคราว ส่วนแอฟริกาใต้สถานการณ์ระบาดชัดเจนขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่พบเป็น เชื้อสาย IIb ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง KUBET อาจเกี่ยวข้องกับการขาดยารักษาและวัคซีน
อาการของโรค ฝีดาษลิง
หากติดเชื้อ ฝีดาษลิง ผู้ป่วยมักมีอาการดังนี้: – ผิวหนัง: ผื่น น้ำตุ่ม ผื่นแดง ผื่นตุ่มหนอง – ร่างกายทั่วไป: ไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ปวดข้อ – ต่อมน้ำเหลืองบวม: บริเวณรอบหู รักแร้ คอ หรือขาหนีบ คำแนะนำ: หากพบอาการดังกล่าว ควรใส่หน้ากากทันทีและไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางและการสัมผัสในสถานที่เสี่ยง KUBET เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและรักษาได้อย่างเหมาะสม

มาตรการป้องกันและคำแนะนำการฉีดวัคซีน
การป้องกันตัวเองและการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยง
การป้องกันตัวเอง
– รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือบ่อย ๆ – หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะในกิจกรรมสังคม – หากมีผื่น น้ำตุ่ม หรืออาการสงสัย KUBET ให้ไปพบแพทย์ทันทีและสวมหน้ากาก
การฉีดวัคซีน
การฉีดวัคซีนเป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แนะนำให้ผู้ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เข้ารับวัคซีนครบ 2 เข็ม โดยเร็ว: – มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในรอบ 1 ปี (เช่น มีคู่หลายคน ขายบริการทางเพศ หรือมีเพศสัมพันธ์ในสถานประกอบการ) – เคยป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ – คู่ทางเพศของตนมีคุณสมบัติตามข้อข้างต้น
การท่องเที่ยวและการเข้าร่วมกิจกรรมสังคม
– ก่อนเดินทางควรติดตามสถานการณ์ ฝีดาษลิง KUBET และมาตรการป้องกันของประเทศปลายทาง – หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับบุคคลไม่รู้จัก โดยเฉพาะในสถานบันเทิง ปาร์ตี้ หรือพื้นที่แออัด – หากกลับจากต่างประเทศแล้วมีอาการสงสัย ควรไปพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการเดินทาง เพื่อป้องกันการวินิจฉัยล่าช้า
สรุป
สถานการณ์ ฝีดาษลิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ประชาชนควรป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด รักษาความระมัดระวัง และเข้ารับวัคซีน การสังเกตอาการผิดปกติและเข้ารับการรักษาทันที KUBET พร้อมแจ้งประวัติการสัมผัสและการเดินทาง เป็นวิธีสำคัญในการปกป้องตัวเองและชุมชน
Q&A
1. จำนวนผู้ป่วยฝีดาษลิงในไต้หวันเพิ่มขึ้นอย่างไรในเดือนมิถุนายน 2024?
– เพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน–พฤษภาคม โดยเดือนมิถุนายนมีผู้ป่วยในประเทศ 6 ราย 2. อาการหลักของโรคฝีดาษลิงมีอะไรบ้าง?
– ผื่น, น้ำตุ่ม, ผื่นแดง, ผื่นตุ่มหนอง, ไข้, หนาวสั่น, ปวดศีรษะ, ปวดกล้ามเนื้อ, ต่อมน้ำเหลืองบวมบริเวณรอบหู, รักแร้, คอ หรือขาหนีบ 3. วิธีป้องกันตัวเองจากฝีดาษลิงคืออะไร?
– รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือบ่อย ๆ, หลีกเลี่ยงใกล้ชิดกับบุคคลไม่รู้จัก, สวมหน้ากากและไปพบแพทย์ทันทีหากสงสัยติดเชื้อ 4. ใครควรเข้ารับวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง?
– ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในรอบ 1 ปี, เคยป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, หรือคู่ทางเพศมีคุณสมบัติตามข้อดังกล่าว 5. คำแนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศหรือเข้าร่วมกิจกรรมสังคมคืออะไร?
– ติดตามสถานการณ์และมาตรการป้องกันของประเทศปลายทาง, หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดบุคคลไม่รู้จัก, และหากมีอาการสงสัยหลังกลับควรไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง
เนื้อหาที่น่าสนใจ:
