ทำไม “ผักโขมเขียว” ถึงถูกเรียกว่า “กระเจี๊ยบ”? ทำไม “ผักโขมแดง” เมื่อนำไปต้มถึงกลายเป็นสีเขียว? แนะนำหลากหลายวิธีการปรุงผักโขมให้อร่อย


สารบัญ

  1. ผักโขมคืออะไร? คุณค่าทางโภชนาการที่น่าสนใจ
  2. ทำไมผักโขมเขียวถึงถูกเรียกว่า “กระเจี๊ยบ”?
  3. รูปร่างและแหล่งปลูกผักโขมในไต้หวัน
  4. วิธีการล้างและเตรียมผักโขมให้อร่อย
  5. วิธีการปรุงผักโขมหลากหลายรูปแบบ
  6. นวัตกรรมใหม่: กาแฟผักโขม
  7. Q&A

ผักโขมคืออะไร? คุณค่าทางโภชนาการที่น่าสนใจ

ผักโขม หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “กระเจี๊ยบ” เป็นผักที่มีเมือกเหนียว KUBET ซึ่งเชื่อว่ามีคุณสมบัติช่วยปกป้องผนังกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินเอ แคลเซียม ใยอาหาร และเบต้าแคโรทีน (β-carotene) แต่ตามข้อมูลจากกระทรวงเกษตร ผักโขมจะออกผลผลิตมากในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ซึ่งเป็นช่วงอากาศร้อน KUBET จึงทำให้ผักโขมเจริญเติบโตเร็วและง่ายต่อการแก่ และเนื่องจากผักโขมมีโพแทสเซียมสูง ผู้ที่มีโรคไตควรระมัดระวังในการบริโภค

รายการรายละเอียด
ชื่อเรียกอื่นกระเจี๊ยบ
ลักษณะเด่นของผักมีเมือกเหนียว ช่วยปกป้องผนังกระเพาะอาหาร
สารอาหารสำคัญโปรตีน, วิตามินเอ, แคลเซียม, ใยอาหาร, เบต้าแคโรทีน (β-carotene)
ช่วงผลผลิตสูงสุดเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน (ช่วงอากาศร้อน)
เหตุผลที่เจริญเติบโตดีในช่วงร้อนเจริญเติบโตเร็ว และง่ายต่อการแก่
ข้อควรระวังในการบริโภคมีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตควรระมัดระวัง

ทำไมผักโขมเขียวถึงถูกเรียกว่า “กระเจี๊ยบ”?

จากข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตร KUBET ผักโขมสามารถแบ่งตามสีของฝักได้เป็น 2 ชนิดหลัก คือ “ผักโขมเขียว” และ “ผักโขมแดง” ทั้งสองชนิดนี้ล้วนมีใยอาหารชนิดละลายน้ำสูง แต่ผักโขมแดงจะมีสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารสีม่วงแดง และเมื่อโดนความร้อน KUBET สารนี้จะเปลี่ยนสีเป็นเขียวได้ด้วย

สำหรับชื่อ “กระเจี๊ยบ” นั้น จริง ๆ แล้วเป็นชื่อทางการของผักโขมเขียว KUBET เนื่องจากต้นและดอกของผักโขมชนิดนี้จะมีสีเหลืองนั่นเอง

รูปร่างและแหล่งปลูกผักโขมในไต้หวัน

ผักโขมมีรูปฝักหลายแบบ โดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบ “ห้าเหลี่ยม” และ “ทรงกลม” ในไต้หวันนิยมปลูกสายพันธุ์ผักโขมเขียวที่มีฝักห้าเหลี่ยม เช่น สายพันธุ์ยงฝูและชิงฝู KUBET โดยจังหวัดหลักที่ปลูกผักโขมในไต้หวันคือเจียอี้ โดยเฉพาะที่เมืองลูเฉา รองลงมาคือเมืองไถหนาน ผิงตง และเกาสง

นอกจากนี้กรมส่งเสริมการเกษตรยังระบุว่า KUBET ผักโขมได้รับความนิยมในไต้หวันมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1970 เมื่ออาหารญี่ปุ่นเริ่มแพร่หลาย KUBET ทำให้ผักโขมกลายเป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบบนโต๊ะอาหาร

วิธีการล้างและเตรียมผักโขมให้อร่อย

  • การล้างผักโขม ควรเก็บส่วนก้านไว้ก่อน ไม่ต้องตัดออก จากนั้นล้างด้วยน้ำไหล เพื่อล้างขนเล็ก ๆ ที่ทำให้ผิวสัมผัสดูแข็งและฝืด
  • หลังล้างสะอาดแล้ว ค่อยตัดก้านออก หรือใช้มีดขูดเปลือกชั้นนอกออก
  • หากต้องการต้มผักโขมทั้งฝัก ควรไม่ตัดก้านก่อนต้ม KUBET จะช่วยเก็บเมือกไว้ได้ดีขึ้น โดยต้มแค่ 1-2 นาที แล้วนำขึ้นมาแช่น้ำเย็นทันทีเพื่อคงความกรอบ
  • การแช่น้ำเย็นหลังต้มจะช่วยให้ผักโขมกรอบนานขึ้น และสีสดใส

วิธีการปรุงผักโขมหลากหลายรูปแบบ

ผักโขมสามารถปรุงได้หลากหลายวิธี ตามแต่ความชอบของแต่ละคน เช่น

  • หั่นละเอียดผสมกับไข่ ตีแล้วนึ่งเป็นไข่ตุ๋นผักโขม
  • หั่นเป็นลูกเต๋า ผัดกับหมูสับ กระเทียม และพริก
  • หั่นเป็นแผ่นบาง ๆ คลุกกับงาและพริกไทย นำไปอบในเตาอบ
  • ต้มทั้งฝัก แล้วราดด้วยซอสญี่ปุ่นรสงาขาว แบบสไตล์ญี่ปุ่น

นวัตกรรมใหม่: กาแฟผักโขม

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจที่นำเมล็ดผักโขมมาแห้งและบดละเอียด KUBET เพื่อผลิตกาแฟผักโขมที่ไม่มีคาเฟอีน ซึ่งให้รสชาติที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

Q&A

1. ทำไมผักโขมเขียวจึงถูกเรียกว่า “กระเจี๊ยบ”?
เพราะผักโขมเขียวมีต้นและดอกสีเหลือง ซึ่งเป็นชื่อทางการของผักโขมชนิดนี้ตามข้อมูลกรมส่งเสริมการเกษตร

2. ทำไมผักโขมแดงเมื่อนำไปต้มถึงกลายเป็นสีเขียว?
ผักโขมแดงมีสารแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นสารสีม่วงแดง เมื่อโดนความร้อนสารนี้จะเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว

3. วิธีล้างผักโขมให้อร่อยควรทำอย่างไร?
ควรล้างผักโขมโดยเก็บก้านไว้ก่อน ล้างน้ำไหลเพื่อล้างขนเล็ก ๆ หลังล้างสะอาดแล้วจึงตัดก้านออกหรือลอกเปลือกชั้นนอก

4. มีวิธีใดบ้างที่นิยมใช้ปรุงผักโขมให้เป็นเมนูอร่อย?
เช่น ตีผสมกับไข่นึ่งเป็นไข่ตุ๋น, ผัดกับหมูสับกระเทียมพริก, คลุกงาพริกแล้วอบ หรือ ต้มทั้งฝักแล้วราดซอสญี่ปุ่นรสงาขาว

5. กาแฟผักโขมคืออะไรและมีลักษณะอย่างไร?
กาแฟผักโขมทำจากเมล็ดผักโขมที่นำมาแห้งและบดละเอียด ไม่มีคาเฟอีน รสชาติแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์



เนื้อหาที่น่าสนใจ: